วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ธรรมชาติและปัญหาของแฮมสเตอร์

    หลายๆท่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งเมื่อเราเลี้ยงแฮมสเตอร์ก็นำความกังวลมาสู่เรานอกเหนือจากความน่ารักน่าชัง แต่ความกังวัลที่มีมานั้นหากว่าเรารู้และมีแนวทางแก้ไข สิ่งเหล่านี้ย่อมคลายกังวลไปได้อย่างมาก ซึ่งความกังวลเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็จะมาจากเรื่องต่อไปนี้

การกินพวกเดียวกัน
     หลายๆครั้งที่แฮมสเตอร์ตัวแม่ได้ให้กำเนิดลูกน้อยออกมา และในเวลาไม่นานลูกน้อยบางตัวก็จะถูกแม่กินไป การที่แฮมสเตอร์กินลูกตัวเองนั้น เกิดจากหลายๆสาเหตุ เช่น แม่หนูยังเด็กเกินไป ไม่พร้อมที่จะมีลูก เกิดความเครียด วิตกกังวล ซึ่งส่วนใหญ่จะพบบ่อยในแม่หนูแฮมสเตอร์ที่อายุน้อยกว่า 4 เดือน บางที่อาจตั้งท้องมาจากร้านขาย และยังมีเหตุผลอื่นๆที่ทำให้แม่หนูกินลูก เช่น ลูกที่ออกมาไม่แข็งแรง พิการ มีลูกมากเกินไป และโดนรบกวนโดยเจ้าของ หรือสัตว์อื่น มีกลิ่นคนติดลูก การที่แม่หนูทำลายลูกตัวเองก็เพราะความปลอดภัย ดังนั้นเราควรปล่อยเค้าให้อยู่เงียบๆ ไม่ต้องไปคอยส่องคอยดู เรามีหน้าที่ให้อาหารให้น้ำ และเมื่อลูกหนูโตได้สัก 2 สัปดาห์ เราค่อยไปสำรวจว่าเค้าเป็นอย่างไร ที่เค้าอยู่สกปรกมั้ย ค่อยๆเปลี่ยนทำความสะอาด แต่ย้ำว่าให้ลูกหนูมีอายุ 2 สัปดาห์ขึ้นไปนะค่ะ ถึงค่อยไปยุ่งกับเค้า

การทอดทิ้งลูกของแม่แฮมสเตอร์
     หลายๆคนเมื่อแม่หนูคลอดลูก ก็จะเริ่มมีคำถามเข้ามา ทำไมแม่หนูถึงไม่เลี้ยงลูกล่ะ ทำไมแม่หนูถึงชอบไปนอนคนละมุมกับลูก ...แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่ตื่นตัวตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่เค้าท้อง แต่เขาก็จะหมั่นเข้ารังไปดูลูกน้อยเค้าอยู่เสมอ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราพบว่าแม่หนูทอดทิ้งลูกไปเลย เช่นไปทำรังและอาศัยอยู่อีกที่ไปเลย และไม่กลับมาดูแลลูกต่อ อย่างน้อย 1 วัน เราอาจจะต้องหาแม่บุญธรรมให้ลูกหนูใหม่ แต่ถ้าเราปล่อยลูกหนูไว้กับแม่อีกวัน แล้วพบว่าลูกน้อยยังมีชีวิตรอด แสดงว่าแม่หนูเค้าจะเข้ามาเลี้ยงในขณะที่เราไม่ไปยุ่งกับเค้า และด้วยเหตุนี้ เราจึงควรปล่อยแม่หนูที่กำลังเลี้ยงอ่อนๆไว้ในที่เงียบสงบ ไม่สิ่งรบกวน และปลอดภัย

การตายของลูกหนูที่เนื่องมาจากนมแม่
     หลายๆคนกำลังสงสัยใช่ไหมว่า... แม่หนูก็เลี้ยงลูกดีนะ แต่ทำไม?? ลูกหนูถึงตาย ตายตัวสองตัวจากทั้งหมดหลายๆตัว ไม่เท่าไหร่ แต่ตายยกคอกล่ะ การที่ลูกหนูตายอาจมีหลายสาเหตุ นมแม่ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ ลูกหนูที่มีลักษณะอาการท้องบวม และผิวแห้ง อาจเกิดจากนมแม่หนูติดเชื้อขึ้นมา ทำให้ลูกหนูตายในเวลาอันรวดเร็วหลังการติดเชื้อ ทางที่ดีเราต้องรีบพาแม่หนูไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว เพื่อรักษาอย่างถูกต้อง

แม่หนูตาย
     ปัญหานี้หลายๆคนก็คงเคยเจอ แม้กระทั้งตายในขณะคลอดลูก ถ้าแม่หนูตายในขณะกำลังคลอดลูก หรือตายหลังคลอดเสร็จแล้ว และถ้าลูกหนูมีอายุต่ำกว่า 10 วันนั้น โอกาสที่เราจะเลี้ยงลูกหนูเองให้รอดนั้นน้อยมาก ทางออกที่ดีคือ เราจะต้องหาแม่บุญธรรมให้ลูกหนู แต่ถ้าลูกหนูมีอายุเกิน 10 วันขึ้นไป โอกาสรอดก็ยังมี ถ้าเขาสามารถกินอาหารเองได้แล้ว แต่เราก็ยังควรที่จะป้อนอาหารเหลว เช่นนมแพะ นมถั่วเหลืองแบบน้ำตาลน้อย น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล หรืออาหารเด็กอ่อน แต่ไม่ควรป้อนซีรีแลค พยายามให้ลูกหนูอยู่ในที่อบอุ่น ป้อนนมด้วยไซริงค์ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง โดยค่อยๆหยดเพียงทีละหยด และหลังป้อนให้กระตุ้นการขับถ่ายให้ลูกหนูด้วย โดยเอาคัดตอนบัตชุบน้ำอุ่น เช็ดบริเวณอวัยวะเพศ

การหาแม่บุญธรรมใหม่ให้ลูกหนู
     การหาแม่ใหม่ให้ลูกหนูที่กำพร้าใช่ว่าจะง่ายและสำเร็จเสมอไป แต่ถ้าสาเหตุและปัญหาตามที่กล่าวมาด้านบน เราก็จำเป็นที่จะต้องทำโดยพยายามเลือกแม่หนูที่มีลูกอายุไล่เลี่ยกัน แต่ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่า แม่หนูจะยอมรับลูกหนูใหม่ได้ โดยที่เราต้องเริ่มจากการเก็บรังแม่ใหม่บางส่วนออกมาใส่ไว้ในกล่อง ใช้ช้อนสะอาดตักลูกหนูที่ต้องการหาแม่ใหม่ในในกล่อง(หาใช้มือจับลูกหนูเด็ดขาด เพราะจะมีกลิ่นเราติดตัวลูกหนู) ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ ให้กลิ่นของรังและกลิ่นของแม่หนูใหม่ติดตัวลูกหนู จากนั้นให้ใช้ช้อนตักลูกหนูไปวางไว้ในกรงแม่ใหม่แต่ต้องนอกรังที่แท่หนูสร้างเอาไว้สำหรับลูกของตัวเอง โดยแอบเอาไปวางไม่ให้แม่หนูเห็น และคอยสังเกตว่าแม่หนูใหม่ยอมรับลูกหนูมั้ย ถ้าเขายอมรับเขาจะคาบลูกหนูไปไว้ในรังเอง แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับหรือสงสัยว่าเป็นผู้บุกรุกเขาก็จะกำจัดลูกหนูทิ้ง เพื่อปกป้องลูกของตนเอง ดังนั้นเราก็ต้องทำใจยอมรับตรงนี้ด้วย เพราะว่าเป็นธรรมชาติของเขา

การท้องเทียม
     การท้องเทียมสามารถพบได้บ่อยเหมือนกันในแฮมสเตอร์ ซึ่งช่วงท้องจะดูพอง แต่หลังจากพ้นระยะตั้งครรภ์ ปรากฎว่าแม่หนูไม่คลอดมาสักที นั่นเพราะเขาไม่ได้ท้องมาจริงๆ ซึ่งไม่ได้เป็นอันตราย ร่างกายแฮมสเตอร์จะกลับสู่สภาพปกติในไม่ช้า และสามารถผสมพันธุ์ได้อีก

การกัดกัน
   แฮมสเตอร์เป็นสัตว์รักสันโดษ เมื่อถึงเวลาที่โตเต็มวัย แฮมสเตอร์จะเริ่มสร้างอาณาเขตของตัวเอง
ตัวที่แข็งแรงก็จะได้เป็นใหญ่ ส่วนตัวที่อ่อนแอก็จะถูกรังแก และกำจัดในที่สุด การที่แฮมสเตอร์กัดกันนั้น
อาจเป็นเพราะการถูกบุกรุกอาณาเขต ทำให้ต้องป้องกันตนเองจากอันตรายต่างๆ การแย่งชิงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาณาเขต อาหาร และของเล่น
แฮมสเตอร์ไม่ควรที่จะนำมาเลี้ยงรวมกัน ไม่ว่าเป็นผู้ผู้ เมียเมีย หรือผู้เมียก็ตาม เพราะเค้ากัดกันได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นเลี้ยง 1 กรงต่อ 1 ตัว ดีที่สุด ลดทั้งปัญหาการกัดกัน การแย่งอาหารกัน ทำให้แฮมสเตอร์แข็งแรง ไม่เครียด และไม่ต่อคอยระแวงอยู่ตลอดเวลา



บทความนี้อาจไขข้อข้องใจหลายๆอย่างให้หลายๆท่านที่เคยพบเจอปัญหาเหล่านี้ได้นะค่ะ









Cr. ข้อมูล เนื้อหา : คัมภีร์แฮมสเตอร์ แกสบี้ และกระต่าย
เรียบเรียง เพิ่มเติม : P. Juthamas

ไม่มีความคิดเห็น: